ในทุกวันนี้ หลอดไฟชนิด LED เข้ามามีบทบาทกับชีวิตเราเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเพิ่มสีสรรให้กับ ทุกวงการอย่างมากมาย ทั้งประโยชน์ในด้านการตกแต่ง และการใช้สอย วันนี้เราจะมาแนะนำเทคนิคการเลือกซื้อหลอดไฟ LED ให้กับทุกคนกันนะครับ..
เทคนิค และวิธีการเลือกซื้อ LED
หลอดไฟ LED หรือ Light Emitting Diode คือเทคโนโลยีของการส่องสว่างใหม่ กินไฟน้อย ทนทาน ให้ความสว่างสูง เกิดความร้อนต่ำมาก ส่วนแต่ละค่ายก็อาจจะทำLEDออกมาต่างๆกัน และก็ยังเรียกชื่อต่างๆกันไปโดยที่ ไม่มีสถาบันหรือมาตรฐานอะไรรองรับกัน เช่นเรียกว่า LED Super Bright บ้างต่อมาก็ตั้งกันเป็น LED Ultra Bight คือเพื่อให้มันดูเหมือนว่าสว่างกว่า Super Bright และก็มีบางค่ายก็ตั้งเป็น High Bright , Extra Bright , ฯลฯ ก็แล้วแต่จะเรียกกันไป สรุปได้ว่า Ultra Bright ของค่ายนึงอาจสว่างน้อยกว่า Super Bright ของอีกค่ายก็ได้ และ ทำนองเดียวกันอาจสว่างน้อยกว่า LED ธรรมดาที่ไม่มีสร้อยต่อท้ายของค่ายโน้นก็ได้ เพราะไม่มีมาตรฐานอะไร ที่บ่งชี้ไว้ชัดเจนนี่เอง ดังนั้นสิ่งที่ควรคำนึงถึงในการเลือกซื้อ LED คงไม่ใช่ชื่อที่ตั้งไว้สวยหรูกระมัง แต่น่าจะ พิจารณาจาก
- ความสว่างของLED ควรทราบว่าLEDนั้นมีหลายเกรด บางทีโคมยี่ห้อนึงมีจำนวน100หลอดLED แต่อาจสว่างกว่าอีกยึ่ห้อที่มี 200 หลอด LED ก็เป็นได้ ราคาของเม็ด LED มันต่างกันครับ
- มุมกระจายของแสง อันนี้สำคัญมากควรทราบว่าธรรมชาติของ LED นั้นพุ่งตรงก็แบบที่นำมาทำไฟฉายนั่นล่ะครับ คือพุ่งแต่ไม่กระจาย ดังนั้นเวลาไปใช้ทำไฟทางจริงๆจะสว่างแค่เป็นกระจุก เรื่องกระจายแสงนี้ บางทีอาจจะสำคัญกว่าความสว่างที่จุดใดจุดหนึ่งของLED เสียอีก
- การกินไฟ ผมได้รับคำถามบ่อยๆว่า LED กี่วัตต์ พอตอบว่ากินไฟ3วัตต์ ก็จะได้รับการตอบกลับจากผู้ถามว่า แล้วมันจะสว่างเหรอ กินไฟเท่านั้น? จริงหรือ? ผมอยากได้ LED สัก12วัตต์ มีไหมครับ , 20W, ล่ะ?ที่จริงแล้วนั่นเป็นความเข้าใจผิดของผู้ซื้อเองถ้าเป็นหลอดไฟทั่วๆไปเวลาเราพูดถึงการกินไฟเท่าไหร่ นั่นหมายถึงมันยิ่งสว่าง แต่ถ้าเป็น LED แล้วละก็ เทคโนโลยีด้านนี้ไปเร็วมากๆครับ ทุกๆเดือนที่ผ่านไปต้องประเมินกันใหม่ LEDที่ดีนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องสว่าง ให้แสงเป็นวงกว้าง และต้องกินไฟให้น้อยที่สุด และแน่นอนว่า บนราคาที่พอยอมรับกันได้ นี่คือเทคโนโลยีเพื่อการประหยัดพลังงานอย่างแท้จริง เป็นเทคโนโลยีเพื่ออนาคตอย่างแท้จริง ดังนั้นเราอาจสรุปได้ว่า LED ที่กินไฟมากคือ LED ที่ล้าสมัย และส่วนใหญ่ คือมันจะเป็น LED ที่ซื้อมาในราคาถูกจากบ้านหม้อหรือคลองถมเท่านั้น ราคา LED นั้นอาจจะต่างกันมากๆในแบบต่างๆ โดยราคาจะเริ่มที่ราคาเม็ดละไม่ถึง 1 บาท จนกระทั่งเม็ดละ10กว่าบาท หรืออาจจะเม็ดละกว่าร้อยบาทถ้าเป็น LED แบบ High Power และปัจจุบันนี้มีถึงเม็ดละเป็นพันก็มีครับ แต่ใช้เพียงเม็ดเดียวสว่างสุดๆ
- ความทนทานและความเสื่อม LED บางชนิดนั้นต้องบอกเลยครับว่าดูดี แต่ไม่ทน เนื่องจากข้อจำกัดของ LEDเอง หลอดไฟทุกชนิดเมื่อใช้ไปเรื่อยๆแสงสว่างจะลดลงเรื่อยๆ สังเกตุดูว่าเวลาเราเปลี่ยนหลอดไฟใหม่ๆจะสว่างมากๆ พอใช้ไปเรื่อยๆจะลดลง LED ก็เช่นกัน แถมยังลดลงมากกว่าหลอด Flourescent อีกด้วย แต่LEDที่ดีปัญหาตรงนี้จะเกิดขึ้นน้อยกว่ามาก
ที่มา: ขอขอบพระคุณข้อมูลดีๆจาก NSThailand