ในที่สุดได้ดาวน์ไลท์มาใช้สมใจอยาก เปิดห้องเข้ามาไม่ว่าใครก็ชื่นชมกับแสงไฟสุดสวยในบ้าน แต่พอนั่งในห้องนานเข้าหน่อยก็ชักจะรู้สึกปวดหัว แสบตา อย่างหาสาเหตุไม่ได้
หรือห้องนี้อาจจะมีพลังงานบางอย่างสิงสถิตย์อยู่?
เจ้าพลังงานบางอย่างนั้นอาจจะเป็นพลังงานแสงสว่างนี่ล่ะค่ะ ถ้าหากเงยหน้ามาหน่อยก็เจอแสงจิ้มตาตลอดเวลา ก็เหมือนกับเรายืนกลางแดด อยู่นานเข้าใครจะไม่เวียนหัว ขืนเป็นแบบนี้จะให้ห้องสวยสุดจิตสุดใจแค่ไหนก็เห็นทีต้องยอมแพ้ อพยพข้าวของหนีไปห้องอื่นไวพอๆ กับหนีผี
ถ้าอย่างนั้นต้องยอมถอดใจจาก ดาวน์ไลท์ แล้วสินะ…
อย่าเพิ่งยอมแพ้ค่ะ สำหรับปัญหานี้เรายังมีวิธีแก้อยู่
5 วิธีแก้ปัญหา ดาวน์ไลท์ แยงตาที่คุณก็ทำได้
ดาวน์ไลท์แบบมีกระจกปิด
1. เลือกใช้ ดาวน์ไลท์ ที่มีกระจกกรองแสง
ดาวน์ไลท์ ที่เห็นได้ทั่วไป มักจะเป็นแบบหน้าเปิดค่ะ ซึ่งหากแสงจ้าเกินไป เราอาจจะเลือกใช้ ดาวน์ไลท์ ที่มีกระจกปิดด้านหน้า เพื่อลดความสว่างจากหลอดไฟได้ค่ะ
รีเฟลกซ์ของโคมไฟ ดาวน์ไลท์ แบบต่างๆ ค่ะ
2. เปลี่ยนรีเฟลก (reflect) หรือตัวสะท้อนแสง
ดาวน์ไลท์ จะมีส่วนของรีเฟลกหลายแบบค่ะ หากเราเลือกติดตั้งรีเฟลกซึ่งมีลักษณะเงา จะช่วยกระจายแสงได้ดี เพิ่มความสว่างให้ห้องได้ แต่ถ้ารู้สึกว่าแสงจัดจ้าเกินไปก็เปลี่ยนมาใช้รีเฟลกผิวทรายแทนค่ะ
3. ดิมเมอร์ หรืออุปกรณ์หรี่แสง
จะแสงมากหรือแสงน้อยก็ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไปถ้าคุณติดตั้งดิมเมอร์ไว้ควบคุมแสง อยากได้แสงมากก็เพิ่ม อยากได้แสงน้อยก็ลด แค่นี้ก็หมดปัญหาแสง ดาวน์ไลท์ แยงตาแล้วค่ะ
4. เปลี่ยนหลอดไฟเป็นแสง warm
แสงสีเหลืองนวล (จนออกส้ม) จะช่วยให้ห้องดูสบายตาและเหมาะกับการพักผ่อนมากขึ้นค่ะ ซึ่งหลอดไฟแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นอาจจะให้แสงแตกต่างกัน หากไม่สามารถทดลองแสงของหลอดไฟก่อนซื้อได้ ก็มีวิธีเลือกแสงที่ต้องการได้โดยสังเกตจากค่า color temperature ซึ่งจะมีหน่วยเป็น xxxx K ค่ะ บางยี่ห้อจะมีบอกค่านี้ไว้ที่กล่องค่ะ
credit : www.energystar.gov
5. เปลี่ยนหลอดไฟ
ไม่ใช่แค่เรื่องแสง แต่จำนวน watt ของหลอดก็มีผลค่ะ โดยเฉพาะถ้าหลอดไฟที่ติดตั้งยาวกว่า ดาวน์ไลท์ ออกมา ตัวนี้จะทำใ้ห้แสงแยงตาแน่นอน ลดจำนวนวัตต์ของหลอดไฟลงให้เหมาะกับการใช้งานก็จะแก้ปัญหานี้ได้แล้วค่ะ
เพียงแค่นี้เรื่องแสงจ้าจนเกินไปของโคมไฟ ดาวน์ไลท์ ก็จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ