Author Archives: saksun

ในทุกวันนี้ หลอดไฟชนิด LED เข้ามามีบทบาทกับชีวิตเราเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเพิ่มสีสรรให้กับ ทุกวงการอย่างมากมาย ทั้งประโยชน์ในด้านการตกแต่ง และการใช้สอย วันนี้เราจะมาแนะนำเทคนิคการเลือกซื้อหลอดไฟ LED ให้กับทุกคนกันนะครับ..

 เทคนิค และวิธีการเลือกซื้อ LED    

หลอดไฟ LED หรือ Light Emitting Diode คือเทคโนโลยีของการส่องสว่างใหม่ กินไฟน้อย ทนทาน ให้ความสว่างสูง เกิดความร้อนต่ำมาก ส่วนแต่ละค่ายก็อาจจะทำLEDออกมาต่างๆกัน และก็ยังเรียกชื่อต่างๆกันไปโดยที่ ไม่มีสถาบันหรือมาตรฐานอะไรรองรับกัน เช่นเรียกว่า LED Super Bright บ้างต่อมาก็ตั้งกันเป็น LED Ultra Bight คือเพื่อให้มันดูเหมือนว่าสว่างกว่า Super Bright และก็มีบางค่ายก็ตั้งเป็น High Bright , Extra Bright , ฯลฯ ก็แล้วแต่จะเรียกกันไป สรุปได้ว่า Ultra Bright ของค่ายนึงอาจสว่างน้อยกว่า Super Bright ของอีกค่ายก็ได้ และ ทำนองเดียวกันอาจสว่างน้อยกว่า LED ธรรมดาที่ไม่มีสร้อยต่อท้ายของค่ายโน้นก็ได้ เพราะไม่มีมาตรฐานอะไร ที่บ่งชี้ไว้ชัดเจนนี่เอง ดังนั้นสิ่งที่ควรคำนึงถึงในการเลือกซื้อ LED คงไม่ใช่ชื่อที่ตั้งไว้สวยหรูกระมัง แต่น่าจะ พิจารณาจาก

led

 

  • ความสว่างของLED ควรทราบว่าLEDนั้นมีหลายเกรด บางทีโคมยี่ห้อนึงมีจำนวน100หลอดLED แต่อาจสว่างกว่าอีกยึ่ห้อที่มี 200 หลอด LED ก็เป็นได้  ราคาของเม็ด LED มันต่างกันครับ
  • มุมกระจายของแสง อันนี้สำคัญมากควรทราบว่าธรรมชาติของ LED นั้นพุ่งตรงก็แบบที่นำมาทำไฟฉายนั่นล่ะครับ คือพุ่งแต่ไม่กระจาย ดังนั้นเวลาไปใช้ทำไฟทางจริงๆจะสว่างแค่เป็นกระจุก เรื่องกระจายแสงนี้ บางทีอาจจะสำคัญกว่าความสว่างที่จุดใดจุดหนึ่งของLED เสียอีก
  • การกินไฟ ผมได้รับคำถามบ่อยๆว่า LED กี่วัตต์ พอตอบว่ากินไฟ3วัตต์ ก็จะได้รับการตอบกลับจากผู้ถามว่า แล้วมันจะสว่างเหรอ กินไฟเท่านั้น? จริงหรือ?  ผมอยากได้ LED สัก12วัตต์ มีไหมครับ , 20W, ล่ะ?ที่จริงแล้วนั่นเป็นความเข้าใจผิดของผู้ซื้อเองถ้าเป็นหลอดไฟทั่วๆไปเวลาเราพูดถึงการกินไฟเท่าไหร่ นั่นหมายถึงมันยิ่งสว่าง แต่ถ้าเป็น LED แล้วละก็ เทคโนโลยีด้านนี้ไปเร็วมากๆครับ ทุกๆเดือนที่ผ่านไปต้องประเมินกันใหม่ LEDที่ดีนั้นมีแนวโน้มที่จะต้องสว่าง ให้แสงเป็นวงกว้าง และต้องกินไฟให้น้อยที่สุด และแน่นอนว่า บนราคาที่พอยอมรับกันได้ นี่คือเทคโนโลยีเพื่อการประหยัดพลังงานอย่างแท้จริง เป็นเทคโนโลยีเพื่ออนาคตอย่างแท้จริง ดังนั้นเราอาจสรุปได้ว่า LED ที่กินไฟมากคือ LED ที่ล้าสมัย และส่วนใหญ่ คือมันจะเป็น LED ที่ซื้อมาในราคาถูกจากบ้านหม้อหรือคลองถมเท่านั้น ราคา LED นั้นอาจจะต่างกันมากๆในแบบต่างๆ โดยราคาจะเริ่มที่ราคาเม็ดละไม่ถึง 1 บาท จนกระทั่งเม็ดละ10กว่าบาท หรืออาจจะเม็ดละกว่าร้อยบาทถ้าเป็น LED แบบ High Power และปัจจุบันนี้มีถึงเม็ดละเป็นพันก็มีครับ แต่ใช้เพียงเม็ดเดียวสว่างสุดๆ
  • ความทนทานและความเสื่อม LED บางชนิดนั้นต้องบอกเลยครับว่าดูดี แต่ไม่ทน เนื่องจากข้อจำกัดของ LEDเอง หลอดไฟทุกชนิดเมื่อใช้ไปเรื่อยๆแสงสว่างจะลดลงเรื่อยๆ สังเกตุดูว่าเวลาเราเปลี่ยนหลอดไฟใหม่ๆจะสว่างมากๆ พอใช้ไปเรื่อยๆจะลดลง LED ก็เช่นกัน แถมยังลดลงมากกว่าหลอด Flourescent อีกด้วย แต่LEDที่ดีปัญหาตรงนี้จะเกิดขึ้นน้อยกว่ามาก

ที่มา: ขอขอบพระคุณข้อมูลดีๆจาก NSThailand

วันนี้มาดูดีไซน์ โคมไฟ จากต่างประเทศกันนะครับ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเขาเอาจริงเอาจังกับการออกแบบ โคมไฟ ขนาดนี้ เห็นแล้วก็รู้สึกอดสนุกแทนไม่ได้จริงๆล่ะครับ เพราะแต่และไอเดีย โคมไฟ ของแต่ล่ะท่านนั้น สุดยอดจริงๆ

ตัวแรกนี้เป็น โคมไฟตั้งพื้น  “Alien” by Buro fur Form ผมว่าดีไซน์เขาคล้ายๆลูกอ๊อด , ปลิง ,ทาก หรืออะไรสักอย่าง ก็เก๋แปลกตาดี นอกจากนั้นก็ทำให้บรรยากาศ รอบข้างดูสะอาดสว่างไปด้วย ท่านใดสนใจโคมไฟตั้งพื้น ดีไซน์นี้เข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่

โคมไฟ

ตัวที่สอง น่าจะเรียกได้ว่า โคมไฟผนัง  กับดีไซน์ที่น่าขบขันประหนึ่งว่า เจ้ามนุษย์จิ๋วกำลังปลดพันธนาการตัวเองออกจากกำแพง ดูแล้วก็ฮาดีเหมือนกัน กับ โคมไฟ ของเขา ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Martyr
โคมไฟ

ตัวที่สาม ผมรู้สึกชื่นชอบมาก ดีไซน์เนอร์เขาดีไซน์ โคมไฟ ออกมาในลักษณะสีหก ซึ่งสีของถังซึ่งเป็นสีขาว ทำให้สีแดงที่หกออกมานั้นดูโดดเด่นมากทีเดียว ทำเหมือนซะด้วยแฮะๆ จะดีมากถ้าได้เห็นตอนเปิดไฟ ท่านใดสนใจ โคมไฟ ชิ้นนี้ดูเพิ่มได้ที่

“Liquid Lamp”
โคมไฟ
เป็นไงบ้างครับกับ โคมไฟ และไอเดียอันบรรเจิดของแต่ละท่าน จริงๆแล้วยังมี โคมไฟ แปลกๆอีก เอาไว้ผมจะ
มาเพิ่มเติมให้ใหม่ในวันพรุ่งนี้แล้วกันนะครับ วันนี้ผมขอลาไปก่อนครับ

โคมไฟ

โคมไฟ ทำหน้าที่บังคับทิศทางแสงของหลอดให้ไปในทิศทางที่ต้องการ โคมไฟ มีใช้กันมากมายหลายชนิดขึ้นอยู่กับการใช้งาน สำหรับ โคมไฟ กับการประหยัดพลังงาน ในที่นี้จะกล่าวถึง โคมไฟ ที่ใช้ภายในอาคาร เพราะมีการนำมาใช้งานกันมาก จำเป็นต้องเลือก โคมไฟ ที่สามารถประหยัดพลังงานและมีคุณภาพที่ดี

1 ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกโคมไฟฟ้า 

1.1 ความปลอดภัยของโคม         โคมไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงานต้องได้รับมาตรฐานความปลอดภัยตามเกณฑ์ด้วย เช่น ต้องไม่มีคมจนอาจเกิดอันตราย  ต้องมีระบบการต่อลงดินในกรณีที่ใช้กับฝ้าสูงเพื่อไม่เป็นอันตรายกับคนที่มาเปลี่ยนหลอด

1.2 ประสิทธิภาพของโคมไฟฟ้า (Luminaire efficiency) โคมไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงานหมายถึงโคมที่มีประสิทธิภาพของโคมสูงที่สุด คือ ให้ปริมาณแสงออกมาจากตัวโคมเมื่อเทียบกับปริมาณแสงที่ออกจากหลอดให้มีค่าสูงที่สุด

1.3 ค่าสัมประสิทธิ์การใช้งานของโคมไฟฟ้า (Coefficients of Utilization) ค่าที่ได้จากการวัดประสิทธิภาพของโคม โดยที่รวมผลของความสูงและสัมประสิทธิของการสะท้อนของผนังและเพดานโดยผู้ผลิต

1.4 แสงบาดตาของโคม (Glare)          เป็นค่าที่แสดงคุณภาพแสงของโคม ต้องเลือกโคมที่มีแสงบาดตาอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้

1.5 กราฟการกระจายแสงของโคม (Distribution Curve)         โคมมีหลายชนิดด้วยกันแต่ละโคมก็มีกราฟกระจายแสงของโคมต่างกัน การนำโคมไปใช้ต้องเลือกกราฟกระจายแสงของโคมที่เหมาะสมกับงาน

1.6 การระบายความร้อนของโคม         โคมไฟฟ้าทีประหยัดพลังงานควรจะมีการระบายความร้อนได้ดี ถ้ามีอุณหภูมิสะสมในโคมมากเกินไปอาจทำให้ปริมาณแสงที่ออกจากหลอดลดลง เช่น โคมไฟส่องลงหลอดคอมแพคก์ถ้าไม่มีการระบายความร้อนที่ดีปริมาณลดลงถึง 40% เป็นต้น

1.7 อายุการใช้งาน         โคมไฟฟ้าทีประหยัดพลังงานต้องพิจารณาอายุการใช้งานด้วย เช่น โคมต้องทำด้วยวัสดุที่สามารถใช้งานได้นานตามที่ต้องการโดยไม่ผุกร่อน และไม่มีการเปลี่ยนรูปเมื่อมีการบำรุงรักษาเนื่องจากการเปลี่ยนหลอดหรือทำความสะอาด

1.8  สถานที่ติดตั้งการเลือกใช้โคม แต่ละชนิดขึ้นอยู่กับว่าต้องการนำไปใช้งานอะไรบ้างต้องการคุณภาพแสงมากน้อยเพียงใด หรือเน้นในเรื่องของปริมาณแสงแต่เพียงอย่างเดียว ต้องมีการป้องกันทางกล ป้องกันน้ำ ฝุ่นผงมากน้อยเพียงใด

 

 

Credit : By http://www.flower-light.com/home.php?page=article

เครื่องดื่มกระป๋องไม่ว่าประเภทใด ยี่ห้อใด รสชาดใด เมื่อเราดื่มน้ำภายในหมดแล้ว ตัวกระป๋องเปล่าก็มักจะถูกโยนทิ้ง หรือนำไปชั่งกิโลขายเพื่อนำไปรีไซเคิล และนำกลับมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ใบใหม่น่ะนะคะ

ในวันนี้บล็อก ไอเดียดี ๆ มีวิธีนำส่วนประกอบเล็ก ๆ จากกระป๋องเครื่องดื่มเหล่านั้นมาใช้ในการ ประดิษฐ์ของตกแต่งบ้าน กัน นั่นก็คือการนำเอาแหวนดึงฝากระป๋องมาทำการ โคมไฟ ใบเก่าให้สวยงามเหมือนใหม่นั่นเองค่ะ

โคมไฟแขวน

 

วัสดุอุปกรณ์ก็มีไม่มากค่ะ ได้แก่

  1. แหวนดึงฝาเครื่องดื่มยี่ห้อใดก็ได้ แต่ควรเป็นรูปแบบและขนาดเดียวกัน จำนวนมาก
  2. ปืนกาวร้อน
  3. โคมไฟ ชนิดแขวนแบบโคมที่หุ้มโครงด้วยผ้า หรือโคมพลาสติก
วิธีการทำก็เพียงคุณนำเอาแหวนจากฝาน้ำอัดลมมาทำการเรียงติดบนตัว โคมไฟ โดยติดเรียงกันไปเป็นแถว ๆ
ด้วยปืนกาวร้อน และเรียงต่อขึ้นไปเป็นชั้น ๆ ให้สวยงาม เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ โคมไฟใบใหม่ ที่มีลวดลายแปลก
ตา แถมยังเป็น โคมไฟ ที่ออกสไตล์โมเดิร์นเหมาะสำหรับบ้านที่ชื่นชอบการตกแต่งบ้านสไตล์นี้อีกด้วยนะคะ
โคมไฟแขวน

โคมไฟ

 

เรื่องของการสร้างจินตนาอย่างง่ายๆ ที่สร้าง โคมไฟ จากไม้ไอติมที่เหลือจากงานประดิษฐ์อย่างอื่น
ที่คุณแม่ให้ตัวเจ้าตัวเล็กเก็บใส่กล่องไว้ จนเจ้าตัวเล็กสงสัยและถามอยู่บ่อยๆ

“ไม่เห็นแม่เอาไปทำอะไรสักที”

คุณแม่ยิ้มเหมือนโดนใจอะไรสักอย่าง “ก็แม่เก็บไว้ ต่อเป็นต้นไม้ด้วยกันไงล่ะ”

“แล้วมันจะเป็นต้นไม้ได้ยังไง” เจ้าตัวเล็กเข้าทางที่คุณแม่ชี้นำเข้าแล้ว

“มา เรามาต่อเป็นต้นไม้กัน” น่าน … เข้าล็อกคุณแม่ เค้าล่ะ !

คุณแม่บอกเจ้าตัวเล็กว่า เราจะสร้าง “ต้นไม้แห่งจินตนาการ” กัน
บอกให้เจ้าตัวเล็กไปหยิบเครื่องไม้เครื่องมือ แล้วชวนคุณพ่อมาช่วยด้วย

เริ่มต้นคุณแม่ให้เจ้าตัวเล็กกับคุณพ่อช่วยกันเขียนรูปต้นไม้ลงในกระดาษ
เป็นต้นไม้ที่ไม่มีใบ เหลือแต่กิ่งก้านที่ยื่นออกไปจากลำต้น
เหมือนในหนังสือนิทานที่คุณแม่เอามาให้ดู เสร็จแล้วก็เอามาเป็นแบบ
โดยคุณแม่เอาไม้ไอติมมาทากาวต่อเป็นลำต้น พร้อมวางตำแหน่งกิ่งใหญ่ไว้ ให้ 4-5 กิ่ง
ระหว่างรอกาวให้แห้ง คุณแมก็ชวนเจ้าตัวเล็กคุย
ถีงต้นไม้ที่จะทำว่าเป็นการนำเอาไม้ไอติมมาต่อกับลำต้นที่แม่ทำตี้ต่างว่าเป็นลำตัว

ต่อไปเราจะมาต่อแขนต่อขาตามที่เราอยากให้เป็น
แต่ต้นไม้จะมีแขนมากแยกออกไปเป็นกิ่งเล็กกิ่งน้อย รับแสงแดดมาช่วยปรุงอาหาร เพื่อให้โตเร็วๆ
คุณพ่อเทเศษไม้ไอติม แยกเป็น 2 กอง คือยาวกับสั้น
เมื่อกาวแห้ง คุณแม่ก็เอาไม้ไอติมทากาวส่งให้คุณพ่อทำเป็นตัวอย่าง แล้วให้เจ้าตัวเล็กทำตาม …

แรกๆ เจ้าตัวเล็กจะถามว่าวางตรงไหนก่อน ตรงนี้ได้มั๊ย ตรงนี้ดีมั๊ย
แม่บอกว่าต่อไปเรื่อยๆ ยังไงก็ได้ตามใจหนู สักพักต้นไม้ก็เริ่มจะเป็นรูปเป็นร่าง … มองเป็นต้นไม้มากขึ้น

ความต้องการของคุณแม่ อยากให้เจ้าตัวเล็กได้ฝึกใช้จินตนาการ
ต่อกิ่งไม้ทีละกิ่ง แล้วแตกกิ่งก้านสาขาออกไปเรื่อยๆ
เปรียบต้นไม้เป็นสมอง กิ่งก้านสาขาเป็นเส้นประสาทที่ต่อขยายเพิ่มขึ้น ตามทักษะ ที่ได้จากการลงมือทำ

โคมไฟ

 

เมื่อเศษไม้ไอติมที่เก็บไว้หมดลง คุณพ่อก็เอาไม้ไอติมใหม่ นำมาตัดสั้นบ้าง ยาวบ้าง สลับกันไป
ส่งให้เจ้าตัวเล็กกับคุณแม่ช่วยกันต่อกิ่งเล็ก กิ่งน้อย
เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวเล็กเริ่มจะเบื่อ ก็บอกให้หยุดพัก เก็บเอาไว้ค่อยทำต่อวันหลัง

ว่างเมื่อไหร่ ก็เอามาเก็บเล็กเก็บน้อย ค่อยๆ ต่อทีละกิ่งไม่รีบร้อน กว่าจะเสร็จเป็นต้นที่พอใจก็ทำกันอยู่เป็นอาทิตย์

ขั้นตอนต่อไปก็คือการทำแป้นฐานเพื่อให้ต้นไม้ยืนต้น ตั้งได้
คุณแม่จะใช้ไม้ไอติมมาประกบโคนต้น หน้าหลังข้างละ 3 อัน ทากาวเสริมเป็น 2 ชั้นสลับกัน ให้รับน้ำหนักได้ ไม่ล้ม

โคมไฟ

 

เพื่อให้ต้นไม้แห่งจินตนาการได้งอกงามในใจของเจ้าตัวเล็ก คุณพ่อจึงนำมาต่อยอดทำเป็นกระถ่างในรั้วไม้
เพิ่มตวามมั่นคงและติดหลอดไฟประหยัดพลังงานแบบขดขนาด 8 วัตต์ ที่มีความสูงพอดีกับรั้วไม้

โคมไฟ

 

จินตนาการให้เป็นกระถ่างในรั้วไม้ สำหรับติดหลอดไฟตั้งไว้ในห้อง

โคมไฟ

 

ด้วยหวังว่าต้นไม้แห่งจินตนาการต้นนี้ จะจุดประกายให้เจ้าตัวเล็ก
ได้แตกกิ่งสาขาของความคิดสร้างสรรค์และ ความเชื่อมั่นในตัวเอง
คุณแม่จึงเอาไปตั้งไว้บนหัวเตียง ให้เจ้าตัวเล็กได้ภูมิใจ และเห็นในคุณค่าของสิ่งที่ได้ช่วยกันทำ

ขอให้ความหวังของคุณแม่สัมฤทธิ์ผล

ขอให้เจ้าตัวเล็กโตเร็วๆ เรียนเก่งๆ และรักแม่มากๆ

Credit : By http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=is-sa-ra&month=09-2009&date=22&group=5&gblog=8

หลายคนมีข้อข้องใจเกี่ยวกับการติดตั้งระบบไฟในบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่อง Down lighting หรือที่เรียกกันว่า ดาวน์ไลท์  ว่ามันคืออะไรเป็นยังไงกันแน่

ดาวน์ไลท์

คำว่า  ดาวน์ไลท์  ก็คือลักษณะการติดตั้งดวงไฟด้วย การฝังหลอดไฟฟ้าไว้ในเพดาน โดยมีกล่องครอบหรือเป็นกระบอกยาวยื่นออกมาสำหรับเป็นตัวบังคับทิศทางของแสง ให้ฉายไปยังจุดที่ต้องการ ซึ่งอาจจะบังคับให้แสงส่องตรงจากเพดานลงสู่พื้น หรือให้ลำแสงตกกระทบผนังก่อนลงสู่พื้น ตัวกล่องครอบและกระบอกยาวนั้น ส่วนใหญ่ก็ทำมาจากอลูมิเนียม ส่วนที่เป็นขอบจะมีทั้งสีขาว ดำ ทอง และเงิน สามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับสถานที่และการตกแต่ง อีกทั้งยังสามารถบังคับแสงและปริมาณความเข้มของแสงได้อีกด้วย ดาวน์ไลท์ บางแบบมีลักษณะเหมือนกับลูกตา สามารถกลอกกลิ้งไปในทิศทางใดก็ได้

ดาวน์ไลท์

สำหรับหลอดไฟที่จะใช้กับการติดตั้ง ดาวน์ไลท์ นั้นมีหลายประเภท แล้วแต่เจ้าของบ้านจะเลือกใช้ อาทิ หลอดไฟธรรมดาหรือหลอดไฟที่มีไส้ที่มักจะเรียกว่าหลอดเขี้ยว หลอดเกลียว ซึ่งจะให้แสงเป็นสีเหลืองและความร้อนออกมาด้วย ให้บรรยากาศที่อบอุ่นนุ่มนวลด้วยโทนสีอบอุ่น หลอด Daylight เป็นหลอดแก้วสีฟ้าเข้มให้แสงนวลคล้ายแสงจันทร์ หรือจะเป็นหลอดฮาโลเจน ซึ่งจะให้แสงออกมาคล้ายหลอดไฟธรรมดา แต่จะให้โทนสีที่อบอุ่นและนุ่มนวลกว่า ตลอดจนให้ความร้อนออกมาน้อยกว่าหลอดไฟธรรมดา สามารถใช้ร่วมกับ Dimmer เพิ่มหรือลดความจ้าของแสงได้ด้วย

ดาวน์ไลท์

ดาวน์ไลท์

ลักษณะการติดตั้งไฟแบบ ดาวน์ไลท์ นี้มีข้อดีที่เราสามารถบังคับแสงที่ส่องตรงจากเพดาน ให้ความสว่างเฉพาะจุดที่ต้องการ เป็นการแก้ไขข้อบกพร่องของห้องและพรางบางมุมที่เป็นมุมอับให้กลืนหายไปกับความมืด ทำให้บรรยากาศภายในห้อง เกิดความสวยงามที่แตกต่างกันระหว่างกลางวันและกลางคืน อีกทั้งเป็นการนำเอาหลอดไฟที่ธรรมดา มาติดตั้งให้ดูดีสวยงามและลดความจ้าของแสงด้วย

การติดตั้งไฟแบบนี้ไม่เหมาะสมที่จะติดตั้งในห้องที่ทำกิจกรรมที่ต้องใช้แสงสว่างมาก ๆ อาทิ ห้องครัว ห้องทำงาน เป็นต้น การติดตั้งนั้นสามารถใช้ได้ทั้งฝ้าเพดาน ยิปซั่มบอร์ดฉาบเรียบ หรือฝ้าเพดานโครงอะลูมิเนียมรูปตัวที แต่ส่วนมากจะนิยมใช้กับฝ้าเพดานแบบเรียบมากกว่า เพราะจะให้ความสวยงามมากกว่า

ดาวน์ไลท์

ส่วนการเลือกซื้อก็ต้องบอกกันสักนิดว่า  ดาวน์ไลท์  นั้นมีทั้งที่เป็นผลิตภัณฑ์มาจากต่างประเทศและผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ ก่อนจะตัดสินใจซื้อก็ควรจะตรวจสอบความสามารถในการใช้งานเสียก่อน เป็นต้นว่าแสงที่ส่องออกมานั้นมีความสม่ำเสมอหรือไม่

 

Credit : By http://www.bestroomstyle.com/%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%97%E0%B9%8C/

หรือ คลิกที่นี้

 

ดาวน์ไลท์

 

หลายๆท่านที่มีความต้องการจะซื้อ ดาวน์ไลท์ คงคิดเหมือนกันว่า  ดาวน์ไลท์ แบบไหนนะที่เหมาะกับบ้านหรือออฟฟิสของเรา  วันนี้ทาง Admin มีเกรดความรู้เกี่ยวกับการเลือก ดาวน์ไลท์ มาเเนะนำคับ

 

1. ให้เลือกโดยดูที่วิธีใส่หลอด
1.1.1 แบบใส่หลอดแนวตั้ง เป็นแบบที่นิยมมานานแล้วออกแบบสำหรับใส่หลอดไส้และหลอดตะเกียบ
1.1.2 แบบใส่หลอดแนวนอน ใช้กับหลอดตะเกียบ มีจุดเด่นที่โคมมีความยาวน้อยกว่าแบบแรกทำให้เหมาะกับห้องที่มีพื้นที่ใต้ฝ้าน้อยมากๆ

2. อ่านที่ข้างโคมจะมีรหัสบอกชนิดของขั้วหลอดที่ใช้ได้
มีรหัสขั้วและหลอดนั้นมีมากมายจนรู้จักไม่หมดแต่ที่เราใช้ติดตกแต่งในบ้านพักอาศัยมีดังนี้
*ถ้าเจอเลข E27 คือขั้วเกลียว  คู่กับ หลอดไส้ หลอดปิงปอง (GLS)   หลอดไส้ทรงกรวย(PAR)   หลอดตะเกียบ หรือ หลอดCOMPACT FLUORESCENT (TC-DSE)
*ถ้าเจอเลข GU4 คู่กับ หลอดฮาโลเจน ( MR11)
*ถ้าเจอเลข G23 คู่กับ หลอดแบบตะเกียบแบบขั้วเขี้ยวไม่มีบัลลาสในตัว (TC)

3.ดูขนาดดวงโคม
*ขนาดความสูงดวงโคม ต้องดูให้มีขนาดพอดีติดตั้งใต้ฝ้าเพดาน และอย่าลืมว่าต้องมีช่องว่างใต้ฝ้าสำหรับระบายความร้อนอย่างน้อย 5 ซม.
*ดูขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางภายในโคมให้ไม่เล็กกว้างขนาดหลอด

4. ผิวสะท้อนภายในโคม
หลักๆมีให้เลือก 3 แบบซึ่งจะให้ลักษณะแสงที่ต่างกันไป
ถ้าเห็นคำว่า Clear Anodized จะมีพื้นผิวเรียบมันวาว จึงแสงที่สว่างเต็มที่
ถ้าเห็นคำว่า Beehive Facet  เป็นพื้นผิวมันแต่มีเหลี่ยมมุมเพื่อหักเหแสงจึงได้แสงที่จ้ามาก และเป็นประกายเหมาะกับการส่องของในร้านค้า
ถ้าพบคำว่า Sand Blast & Line Facet พื้นผิวเป็นเหลี่ยมมุมหักเหแสง และมีพื้นผิวพ่นทรายด้วยจึงได้แสงที่เป็นประกายที่นุ่มนวลทำให้ไม่รู้สึกแยงตา

5.รัศมีส่องสว่างให้ดูที่ข้างกล่อง
จะ แสงเป็นภาพกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่าง ความกว้างของรัศมีแสง กับ ความสูงของดวงโคม ซึ่งมีประโยชน์ในการกำหนดระยะห่างของดวงโคมเพื่อให้ได้ความสว่างที่เหมาะกับ การใช้งาน
สิ่งสำคัญที่ต้องดู คือ
*ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของแสงที่ส่องลงพื้น เพื่อตัดสินใจกำหนดตำแหน่งและจำนวนหลอดไฟ
*ตำแหน่งความสูงของดวงโคมจากพื้น ที่เหมาะสมกับการใช้งาน

TIPS IN ROOM
*การติดตั้งควรเผื่อระยะห่างกับพื้นใต้ฝ้าประมาณ 10-15 ซม.เพื่อการระบายความร้อนที่ดี ซึ่งจะช่วยยึดอายุการใช้งานของหลอด
*ระยะห่างที่ใช้ติดตั้งดวงโคมโดยทั่วไป (ใช้โคมขนาด 4” ในห้องสูง 2.50 เมตร เท่ากัน)
-ห้องนอน ที่ใช้ หลอดไส้ 80 W. เว้นระยะห่าง 1.50 เมตร
-ห้องทำงาน ที่ใช้ หลอดตะเกียบ(แสงขาว)   36 W. เว้นระยะห่าง  0.80 เมตร
-ห้องนั่งเล่น ที่ใช้ หลอดตะเกียบ(แสงเหลือง)   36 W. เว้นระยะห่าง  1.00 เมตร
*สำหรับห้องที่มีความชื้นสูง และมีโอกาสโดนน้ำบ่อย อย่างห้องน้ำควรเลือกใช้โคมไฟดาว์ไลท์แบบที่มีครอบกระจกปิดกันไฟฟ้าซ็อต

Credit : By www.homepro.co.th

ดาวน์ไลท์

มีหลายๆคนสงสัยว่า ดาวน์ไลท์ ที่เราซื้อกันมาทั่วไปมากมายตามท้องตลาดเราสามารถติดตั้งได้เองหรือเปล่า  โดยที่เราไม่ต้องไปจ้างช่างเพื่อทำการติดตั้งเจ้า ดาวน์ไลท์ ตัวนี้  วันนี้ Admin ได้มีเกร็ดความรู้ดีๆที่จะนำมาเสนอเกี่ยวกับการติดตั้ง ดาวน์ไลท์  ไปดูพร้อมๆกันเลยครับ

 

ดาวน์ไลท์

 

ขั้นตอนที่ 1
วัดขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของโคมไฟ ดาวน์ไลท์ ที่เ ราต้องการติดตั้งเพิ่มซึ่งการวัดจะวัดขนาดของขอ บภายในของโคมไฟ

ดาวน์ไลท์

 

ขั้นตอนที่ 2
กำหนดตำแหน่งที่ต้องการติดตั้งไฟ ดาวน์ไลท์ หากติดจำนวนมากกว่า 1 ดวงควรที่จะกำหนดตำแหน่งให้ตรงกันเพื่อความสวยงาม ใช้วงเวียนวาดเส้นวงกลมตามข นาดขอบภายในดวงโคม

ดาวน์ไลท์

 

ขั้นตอนที่ 3
ใช้เลื่อยมือใสใบเลื่อยเหล็กตัดผ้ายิปซั่มให้ได้ ขนาดตามแนวขีดเส้นของวงเวียนที่ขีดไว้ การเลื่อยควรที่จะใช้มือประคองฝ้ายิปซั่มบริเวณข้างเดียวเพราะว่าในขณะที่เลื่อยนั้นจะเกิดการสั่นสะเทือนรอยต่อที่ฉาบยิปซั่มไว้อาจจะแตกได้

ดาวน์ไลท์

 

ขั้นตอนที่ 4
ร้อยสายไฟเข้าในช่องที่ตัดเจาะเอาไว้แล้วโยงสาย มาลงที่ผนังที่ต้องการติดสวิตช์ปิด – เปิด แล้ว เจาะรูที่ฝ้าเพดานเพื่อร้อยสายลงมาหรือลงในตำแห น่งที่ยังมีสวิตช์ว่างอยู่ เดินสายไฟลงในพลาสติ กครอบสายไฟเพื่อความสวยงาม

ดาวน์ไลท์

 

ขั้นตอนที่ 5
ต่อสายไฟเข้ากับขั้วไฟของโคม ดาวน์ไลท์ ขันสกรูใ ห้แน่นแล้วจึงต่อพ่วงสายไฟฝังสวิตช์เข้ากับสวิต ช์เดิมหรือเพิ่มช่องสวิตช์ใหม่ แล้วใส่หลอดทดลองเปิดไฟเช็คความถูกต้อง ติดเทปพันสายไฟให้ปลอดภัย

ดาวน์ไลท์

 

ขั้นตอนที่ 6
ใส่โคมเข้าไปบนฝ้าเพดานโดยง้างให้เหล็กสปริงอยู่ด้านบนแล้วดันขึ้นไปบนฝ้า ปรับให้ขอบเรียบกับพื้นเพดาน

เห็นไหมละครับว่าการติดตั้ง ดาวน์ไลท์ ไม่ได้ยากอย่างที่คิดไว้เลย  เพียงเท่านี้เราก็สามารถติดตั้ง ดาวน์ไลท์ ได้เองแล้วละครับ

 

Credit : By http://guru.thaibizcenter.com/articledetail.asp?kid=8869

โคมไฟ จากช้อนพลาสติก

 

เจอแล้ว !!!…..  โคมไฟ  ธรรมดาที่สีสันไม่ธรรมดา  วันนี้ก้เหมือนทุกวันเช่นเคยที่ Admin  ได้ท่องไปบนโลกออนไลน์เพื่อค้นหา โคมไฟ สวยๆหรือ โคมไฟ แปลกๆจนมาพบกับเจ้า โคมไฟ ชิ้นนี้เข้าซึ้งรูปลักษณ์ของมันก็แสนจะธรรมดาและวัสดุที่นำมาทำเจ้า โคมไฟ นี้แสนจะธรรมดายิ่งกว่า  เพราะทำมาจากช้อนพลาสติกที่ทิ้งแล้ว  แต่บอกได้คำเดียวว่า Design ของเค้าโดนตาโดนใจจริงๆ  ไปดูเลยละกันว่าเขามีวิธีการทำเจ้า โคมไฟ นี้อย่างไร

อุปกรณ์

  • ช้อนพลาสติก
  • ขวดพลาสติก
  • หลอดไฟ พร้อมเดินสายไฟ
  • กาว
  • กรรไกร

วิธีทำ

โคมไฟ จากช้อนพลาสติก

 

1. ใช้กรรไกรตัดขอบขวดด้านล่างออก

โคมไฟ จากช้อนพลาสติก

2. ตัดด้ามช้อนพลาสติกออกให้เหลือแต่ช้อน

โคมไฟ จากช้อนพลาสติก

3. จากนั้นนำมาเรียงทับกันเป็นชั้นๆ ซ้อนทับลงมาจากด้านล่างขึ้นบน

โคมไฟ จากช้อนพลาสติก

4.  ติดช้อนให้ทั่วขวดและวนเรียงให้รอบถึงคอขวด

โคมไฟ จากช้อนพลาสติก

5. ใส่หลอดไฟ ให้เรียบร้อย จะได้โคมไฟช้อนสวยๆ นำไปตกแต่งห้องแล้วครับ

Credit : By http://p-dit.com/2012/12/03/2047/

01

 

วันนี้ทาง Admin  ได้อ่านบทความต่างๆจากเว็บทั่วไปเกี่ยวกับ โคมไฟ เช่นเคย  แต่มาสดุดตากับเจ้า โคมไฟ ชิ้นนี้เข้ารูปร่างน่าตาก็แสนจะธรรมดา  แต่เวลามีแสงเปล่งออกมาแสนจะดูคลาสสิค  ทาง Admin  เลยนำเกร็ดความรู้ในการทำเจ้า โคมไฟ ชิ้นนี้มำนำเสนอ  เพื่อเพื่อนๆอยากทำเจ้า โคมไฟ ชิ้นนี้ก็จะได้สามารถทำเจ้า โคมไฟ ชิ้นนี้ได้เลยคับ  ซึ่งขั้นตอนการทำ โคมไฟ  รายละเอียดตามด้านล่างครับ

วิธีทำ

โคมไฟจากเชือก

 

1. นำเชือกมาชุปกาว ในถ้วยที่เตรียมไว้เพื่อสำหรับนำมาทำตัวโคมไฟ

โคมไฟจากเชือก

2. จากนั้นนำไปพันกับลูกโป่ง ลูกใหญ่ๆที่เตรียมไว้

โคมไฟจากเชือก

3.  นำเชือกที่ชุปกาวพันให้รอบลูกโป่ง

โคมไฟจากเชือก

4.  เจาะรูด้านบน นำลูกโป่งออก จากนั้น รอกาวแห้ง

โคมไฟจากเชือก

5.  นำหลอดไฟใส่เข้าไปด้านในตัวโคมไฟ

โคมไฟจากเชือก

6.  นำไปประดับตามที่ต่างๆ ตามบ้าน หรือทำขายโคมไฟสวยๆ ทำจากเชือกได้ด้วย ลองทำดูนะคับง่ายๆ ไม่ยากเลยคับ

Credit : By http://p-dit.com/2012/11/12/1919/